การขึ้นทะเบียนรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพื่อรับเบี้ยยังชีพในปีงบประมาณ 2567
เริ่มรับลงทะเบียนตั้งแต่เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2565 - เดือนมกราคม - กันยายน 2566
- คุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
1. สัญชาติไทย
2. เป็นผู้เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2507 (ในกรณีที่ทะเบียนราษฎร์ระบุ
เฉพาะปีเกิด ให้ถือว่าบุคคลนั้นเกิดวันที่ 1 มกราคมของปีนั้น เช่น เกิด
พ.ศ.2507 ให้ถือว่าเกิด วันที่ 1 มกราคม 2507)
3. มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลพุคำจาน
4. ไม่เป็นผู้ที่รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ
รัฐวิสาหกิจ หรือเทศบาล อบต. ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือเทศบาล อบต. จัดให้เป็นประจำ ยกเว้นผู้พิการหรือผู้ป่วยเอดส์ตามระเบียบ
- หลักฐานในการขึ้นทะเบียนดังนี้
1. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายพร้อมสำเนา จำนวน 1 ฉบับ
2. ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา จำนวน 1 ฉบับ
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร พร้อมสำเนา (เฉพาะหน้าที่แสดงชื่อ และเลขที่บัญชี)
- ผู้อื่นยื่นเอกสารแทนผู้สูงอายุได้หรือไม่ ?
ในกรณีผู้สูงอายุที่ไม่สามารถมาลงทะเบียนด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ โดยให้ผู้รับมอบอำนาจติดต่อที่องค์การบริหารส่วนตำบลพุคำจาน โดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจตัวจริง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ฉบับ
- ผู้สูงอายุแต่ละคนจะได้รับเงินเท่าไหร่ ?
ปัจจุบันได้จ่ายแบบขึ้นบันได ดังนี้
อายุ 60 – 69 ปี จะได้รับ 600 บาท
อายุ 70 – 79 ปี จะได้รับ 700 บาท
อายุ 80 – 89 ปี จะได้รับ 800 บาท
อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท
*** ในกรณีผู้สูงอายุที่ย้ายภูมิลำเนา ***
ผู้สูงอายุที่มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้ย้ายทะเบียนบ้านจากเทศบาล หรือ อบต. ที่เคยจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดิม ยังคงจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจนกว่าจะสิ้นสุดปีงบประมาณนั้น คือเดือนกันยายน
หากมีความประสงค์จะรับเบี้ยยังชีพต่อไป ต้องไปจดทะเบียนเพื่อขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่องค์การบริหารส่วนตำบลพุคำจาน โดยเร็ว หลังจากได้ทำการย้ายทะเบียนบ้านมายังตำบลพุคำจาน เพื่อเริ่มรับเงินที่แห่งใหม่ในเดือนตุลาคมของปีถัดไป หากไม่ดำเนินการ ผู้สูงอายุจะเสียสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ข่าว ณ. วันที่ 5 ต.ค. 2565 เวลา 11.36 น. โดย คุณ ลภัสรดา ดินดำ
ผู้เข้าชม 134 ท่าน |